Upload
A5 survey 2018 v31
•
1 like
•
4,482 views
ETDAofficialRegist
Follow
A5 survey 2018 v31
Read less
Read more
Report
Share
Report
Share
1 of 142
Download now
Download to read offline
More Related Content
A5 survey 2018 v31
1.
ชื่อเรื่อง รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในประเทศไทย ปี
2561 (ฉบับปรับปรุง) Value of e-Commerce Survey in Thailand 2018 จัดทำ�โดย สำ�นักยุทธศาส���ร์ สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ISBN 978-616-7956-41-1 พิมพ์ครั้งที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 พิมพ์จำ�นวน 2,500 เล่ม ราคา 200 บาท สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
2.
1 4 7 10 2 5 8 3 6 9
3.
Board of ETDAคณะกรรมการบริหาร ETDA 1
จีราวรรณ บุญเพิ่ม ประธานกรรมการ 2 อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการโดยต�ำแหน่ง 3 สมหมาย ลักขณานุรักษ์ ผู้แทนผู้อ�ำนวยการ ส�ำนักงบประมาณ กรรมการโดยต�ำแหน่ง 4 ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้แทนผู้อ�ำนวยการส�ำนักงาน พัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีแห่งชาติ กรรมการโดยต�ำแหน่ง 5 ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการเงิน) 6 ปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) 7 วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านนิติศาสตร์) 8 วิริยะ อุปัติศฤงค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านวิศวกรรมศาสตร์) 9 สิบพร ถาวรฉันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์) 10 สุรางคณา วายุภาพ กรรมการและเลขานุการ
4.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 4 ท�ำอย่างไรจะไม่ให้ e-Commerce เป็นแค่เทรนด์ที่มูลค่าโต ตามตลาดโลก แต่ให้คนไทยเข้าไปมีส่วนร่วมในการเติบโตนี้ มากที่สุด ไม่ใช่เป็นแค่คนซื้อ แต่เป็นคนที่หารายได้ได้จาก Ecosystem นี้ การที่ ETDA จับมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งรัฐและ เอกชนในการสร้าง e-Commerce Park ของไทยขึ้น เพื่อให้เป็นศูนย์รวมการเรียนรู้ ฝึกอบรม จัดท�ำโครงการต่าง ๆ และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานชั้นน�ำในต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้สามารถส่งออกไปยังตลาดโลกได้ อีกทั้งเติมคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็น Workforce ที่ส�ำคัญใน อุตสาหกรรมนี้ นับเป็นบทบาทที่ท้าทายอย่างยิ่ง พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
5.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 5 พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี
6.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 6 พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ท�ำงานอย่างเต็มที่หลายสิ่งหลายอย่าง เดินหน้าไปมากกว่าแผน เราพยายามท�ำให้คนซึ่งอยู่ห่างไกลสามารถ เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างทั่วถึง ในลักษณะเดียวกันกับการเข้าถึงไฟฟ้า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานนี้พร้อมแล้ว ตัวเลขมูลค่า e-Commerce ของไทยย่อมจะสูงขึ้นกว่านี้อีกมาก ย่อมส่งผลต่อความกินดีอยู่ดีและภาพรวมทางเศรษฐกิจ อย่างมีนัยส�ำคัญ
7.
e-Commerce เน็ตประชารัฐ EEC Digital ชุมชน e-Commerce เน็ตประชารัฐ Digital ชุมชน EEC
8.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 8 อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม e-Commerce คือตัวอย่างของการใช้ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่ดี มูลค่าที่เติบโตขึ้นในแต่ละปี สะท้อนถึงการท�ำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจะยังเดินหน้า ท�ำงานเชิงรุกไม่ว่าจะเป็นเรื่องการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน ด้านอินเทอร์เน็ตให้ทั่วถึง และการช่วยให้คนทุกพื้นที่มีความรู้ เพื่อสร้างงานสร้างอาชีพจากการท�ำธุรกิจออนไลน์ ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่า e-Commerce ไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป
9.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 9 อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย
10.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 10 จีราวรรณ บุญเพิ่ม ประธานคณะกรรมการบริหาร ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตัวเลข e-Commerce ที่สูงขึ้นทุกปี สะท้อนการเปลี่ยนแปลง อย่างมีนัยส�ำคัญ ทาง UNCTAD เอง ก็ตั้งเป้าหมายการพัฒนา ทีี่ยั่งยืน โดยคาดหวังให้ e-Commerce เป็นเครื่องมือส�ำคัญ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อตัวเลข e-Commerce โตอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายที่จะท�ำให้เกิดมูลค่าใน Digital Economy เป็น 25% ของ GDP ของประเทศก็คงไม่ไกลนัก
11.
น่าภูมิใจว่าการสำ�รวจมูลค่า e-Commerce ของเราได้รับการยอมรับในเวทีระดับระหว่างประเทศ เช่น UNCTAD
12.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 12 คริส เฟง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำ�กัด เจมส์ ตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า (ประเทศไทย) จำ�กัด “เราเชื่อว่าแหล่งรวมสินค้าออนไลน์ หรือ e-Marketplace เป็นแหล่งบ่มเพาะ ผู้ประกอบการ เป็นแหล่งซึ่งส่งเสริมให้ผู้ซื้อ และผู้ขายได้ประกอบธุรกิจของตนเอง เราต้องแทรกแซงกระบวนการระหว่าง ผู้ซื้อ-ผู้ขายให้น้อยที่สุด เพราะเรามีหน้าที่ แค่ควบคุมและส่งเสริม ไม่ใช่มือสังหาร” “เราอยู่ในโลกที่ไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือ เพราะ มักโดนสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมาดึงเอาเวลาและ ความสนใจไป ดังนั้นสิ่งที่จะกำ�หนดให้ธุรกิจ อีคอมเมิร์ซหยุดนิ่งหรือไปต่อได้นั้น ก็คือ ความสามารถของ��ีคอมเมิร์ซเอง ว่าจะสามารถสร้างฐานลูกค้าและทำ�ให้กลับมา ซื้อสินค้าได้หรือไม่”
13.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 13
14.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 14 คำ�นำ� “e-Commerce บ้านเราจะโตอย่างไร และไปทิศทางไหน” การมีข้อมูลสถานภาพรวม ตลาด e-Commerce จึงมีความส�ำคัญต่อการน�ำ ไปใช้วางแผนกลยุทธ์ทั้งระดับนโยบายและในการ ท�ำธุรกิจและเป็นแรงผลักดันให้สพธอ.ร่วมมือกับ เครือข่ายส�ำคัญอย่างส�ำนักงานสถิติแห่งชาติท�ำการ ส�ำรวจมูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย (Value of e-Commerce in Thailand) อย่างต่อ เนื่องเป็นปีที่ 4 นับตั้งแต่ปี 2558 โดยด�ำเนินการ ตามระเบียบวิธีวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความถูกต้อง แม่นย�ำใกล้เคียงกับสถานภาพe-Commerceของ ประเทศ��ทยมากที่สุด ปีนี้ สพธอ. ได้จัดเก็บมูลค่า e-Commerce ปี 2560 และคาดการณ์มูลค่าในปี 2561 จากการ ส�ำรวจผู้ประกอบการ e-Commerce ทั้งประเทศ ที่รวบรวมรายชื่อและได้รับความร่วมมือจากสมาคม ผู้ประกอบการ e-Commerce ไทย กรมพัฒนา ธุรกิจการค้า (DBD) และส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ ทั้งสิ้น 644,071 ราย สพธอ. ขอขอบพระคุณทุกหน่วยงานที่ให้ ความร่วมมือในการส�ำรวจนี้จนส�ำเร็จลุล่วงไปได้ ด้วยดีและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือ ที่ดีเช่นนี้ จากทุกท่านในโอกาสต่อไป สุรางคณา วายุภาพ ผู้อ�ำนวยการ ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
15.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 15
16.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 16 สารบัญ คำ�นำ�.........................................................................................................14 สารบัญภาพ..............................................................................................18 บทสรุปผู้บริหาร........................................................................................23 ผลการสำ�รวจที่สำ�คัญ...............................................................................36 1. มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย...............................................37 2. มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย จำ�แนกตามประเภทผู้ประกอบการ.......................................................50 3. มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย จำ�แนกตามประเภทอุตสาหกรรม .......................................................56 4. มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย จำ�แนกตามขนาดของธุรกิจ ............................................................. 65 5. ช่องทางการชำ�ระเงินที่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ใช้งานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ..............................................................80 6. ช่องทางการขนส่งสินค้าและบริการ ที่ผู้ประกอบการใช้งานในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล .....................................83 7. ช่องทางการชำ�ระเงินที่ผู้ประกอบการ Enterprises เลือกใช้มากที่สุด 5 อันดับแรก .................................86 8. ช่องทางการตลาดออนไลน์ที่ผู้ประกอบการ Enterprises ใช้ในการ ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ ที่มี Return on Investment (ROI) และสร้างยอดขายมากที่สุด 5 อันดับแรก .........................................87
17.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 17 9. การนำ�เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาใช้ในการดำ�เนินธุรกิจของผู้ประกอบการ Enterprises .............89 10. การนำ�เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เข้ามาใช้ดำ�เนินธุรกิจของผู้ประกอบการ Enterprises ..................91 11. ประเด็นที่ส่งผลกระทบสำ�คัญต่อผู้ประกอบการ e-Commerce ไทย และข้อเสนอแนะ ..............................................96 11.1 กลุ่มผู้ประกอบการ Enterprises............................................96 11.2 กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs.......................................................98 ภาคผนวก..............................................................................................100
18.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 18 สารบัญภาพ ภาพ 1 มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย ปี 2558-2560 และคาดการณ์ปี 2561............................................................37 ภาพ 2 มูลค่า e-Commerce แบบ B2C ของประเทศต่างๆ ปี 2559-2560........................................................................38 ภาพ 3 มูลค่า e-Commerce แบบ B2C เฉลี่ยต่อหัวประชากร ของประเทศต่างๆ ปี 2559-2560........................................42 ภาพ 4 ร้อยละของมูลค่า e-Commerce ปี 2558-2560 (จำ�แนกตามมูลค่าขายสินค้าภายในประเทศและต่างประเทศ) ......... 45 ภาพ 5 ร้อยละของมูลค่า e-Commerce ปี 2560 รายภูมิภาค กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs จำ�แนกตามขนาดของธุรกิจ e-Commerce ............................ 47 ภาพ 6 ร้อยละของผู้ประกอบการ e-Commerce ปี 2558-2560 จำ�แนกตามลักษณะการขายสินค้าและบริการ............................... 49 ภาพ 7 มูลค่า e-Commerce ปี 2558-2560 และคาดการณ์ปี 2561 จำ�แนกตามประเภทผู้ประกอบการ (รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ)......................................50 ภาพ 8 ร้อยละของมูลค่า e-Commerce ปี 2558-2560 และคาดการณ์ ปี 2561 จำ�แนกตามประเภทผู้ประกอบการ (รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ)......................................51
19.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 19 ภาพ 9 ร้อยละของมูลค่า e-Commerce จำ�แนกตามประเภทผู้ประกอบการ (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) .................................54 ภาพ 10 มูลค่า e-Commerce ปี 2558-2560 และคาดการณ์ปี 2561 จำ�แนกตามประเภทอุตสาหกรรม (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) .................................56 ภาพ 11 ร้อยละของมูลค่า e-Commerce ปี 2560 มูลค่า รายอุตสาหกรรม จำ�แนกตามประเภทผู้ประกอบการ (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) ...............................58 ภาพ 12 มูลค่า e-Commerce ปี 2558-2560 และคาดการณ์ปี 2561 ของอุตสาหกรรมการค้าปลีกและการค้าส่ง จำ�แนกตามประเภทสินค้า และบริการ (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) .............. 60 ภาพ 13 มูลค่า e-Commerce ปี 2558-2560 และคาดการณ์ปี .2561 ของอุตสาหกรรมศิลปะ บันเทิง และนันทนาการ จำ�แนกตามประเภท สินค้าและบริการ (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) ...... 62 ภาพ 14 มูลค่า e-Commerce ปี 2558-2560 และคาดการณ์ปี .2561 จำ�แนกตามขนาดของธุรกิจ e-Commerce (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) .................................65 ภาพ 15 มูลค่า e-Commerce ปี 2560 รายอุตสาหกรรม จำ�แนกตามขนาดของธุรกิจ e-Commerce (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ)..................................68
20.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 20 ภาพ 16 คาดการณ์มูลค่า e-Commerce ปี 2561 รายอุตสาหกรรม จำ�แนกตามขนาดของธุรกิจ e-Commerce (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ)..................................70 ภาพ 17 ร้อยละของมูลค่า e-Commerce ปี 2560 ของกลุ่มอุตสาหกรรมการค้าปลีกและการค้าส่ง รายประเภทสินค้าและบริการ จำ�แนกตามขนาดของธุรกิจ e-Commerce (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) .......72 ภาพ 18 ร้อยละของมูลค่า e-Commerce ปี 2560 ของกลุ่มอุตสาหกรรม การค้าปลีกและการค้าส่งรายประเภทสินค้าและบริการ จำ�แนกตามขนาดของธุรกิจ e-Commerce (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) .................................74 ภาพ 19 มูลค่า e-Commerce ปี 2560 รายอุตสาหกรรม จำ�แนกตามช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ของผู้ประกอบการ SMEs (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ)......................76 ภาพ 20 ร้อยละของมูลค่า e-Commerce ปี 2560 รายอุตสาหกรรม จำ�แนกตามช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ของกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) ...................78 ภาพ 21 ร้อยละของช่องทางการชำ�ระเงิน ที่กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ใช้งานในปี 2560........................80 ภาพ 22 ร้อยละของช่องทางการชำ�ระเงินทางออนไลน์ กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ใช้งานในปี 2560..........................81 ภาพ 23 ร้อยละของผู้ประกอบการ e-Commerce ปี 2560 จำ�แนกตามช่องทางการขนส่งสินค้าและบริการ.............................83
21.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 21 ภาพ 24 ช่องทางการชำ�ระเงินที่ผู้ประกอบการ Enterprises เลือกใช้มากที่สุด 5 อันดับแรก .................................................86 ภาพ 25 ช่องทางการตลาดออนไลน์ ที่ผู้ประกอบการ Enterprises ใช้ในการ. ประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ ที่มี Return on Investment (ROI) และสร้างยอดขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ........................87 ภาพ 26 ลักษณะการใช้ข้อมูล Big Data ของ Enterprises.................89 ภาพ 27 งบประมาณสำ�หรับการทำ� Big Data/Data Analytics ของผู้ประกอบการ Enterprises..............................................90 ภาพ 28 ผู้ประกอบการ Enterprises ที่ใช้ Artificial Intelligence (AI) ช่วยในการดำ�เนินธุรกิจ ..........................................................91 ภาพ 29 ลักษณะการใช้งาน AI ในการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ของ Enterprises...................................................................92 ภาพ 30 งบประมาณสำ�หรับพัฒนา AI ของ Enterprises......................94
22.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 22 นอกจากนี้ สพธอ. ยังได้ร่วมกับหน่วยงานในอุตสาหกรรมอื่น เช่น สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์ แห่งชาติส�ำรวจตัวเลขมูลค่าอุตสาหกรรมคอนเทนต์ (ที่รวมการบริโภคคอนเทนต์ในระบบอินเทอร์เน็ต) ซึ่งประกอบด้วยภาพยนตร์ แอนิเมชัน เพลง เกม โทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต ในปี 2558 มีจ�ำนวน 253,938 ล้านบาท1 ซึ่งเติบโตจากปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่น่าจับตาม��งว่า หาก สพธอ. สนับสนุนอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งรวมถึง Digital Content อย่างเต็มที่ ก็จะช่วยให้มูลค่า e-Commerce ของไทยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน สพธอ. ขอขอบพระคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการส�ำรวจให้ส�ำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือที่ดีเช่นนี้ จากท่านในโอกาสต่อไป 1 รายงานวิจัยฐานข้อมูลอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์และอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่อเนื่องอุตสาหกรรมวิทยุโทรทัศน์ (Content Industry) พ.ศ. 2555-2558, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ส�ำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) และบริษัท ดิจิทัล เอนเทอเทนเม้นท์ เอ็กซ์เปอร์ท จ�ำกัด คำ�นำ� “e-Commerce บ้านเราจะโตอย่างไร และไปทิศทางไหน” การมีข้อมูลสถานภาพรวม ตลาด e-Commerce จึงมีความส�ำคัญต่อการน�ำ ไปใช้วางแผนกลยุทธ์ทั้งระดับนโยบายและในการ ท�ำธุรกิจ และเป็นแรงผลักดันให้ สพธอ. ร่วมมือ กับเครือข่ายส�ำคัญอย่างส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ ท�ำการส�ำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใน ประเทศไทย (Value of e-Commerce in Thai- land) อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2558 โดยด�ำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูล ที่มีความถูกต้องแม่นย�ำใกล้เคียงกับสถานภาพ e-Commerce ของประเทศไทยมากที่สุด ดังนั้น การมีข้อมูลสถานภาพตลาดพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มูลค่าขาย e-Commerce นับว่าเป็นสิ่งส�ำคัญที่ สะท้อนทิศทางและแนวโน้มของตลาด e-Commerceในประเทศไทยเทียบกับต่างประเทศ สพธอ. หวังให้หน่วยงานรัฐน�ำตัวเลขส�ำคัญนี้ไป ใช้วางแผนและกลยุทธ์ชาติ เอกชนใช้ประโยชน์ จากข้อมูลเพื่อท�ำธุรกิจ ประชาชนจะได้เห็นช่อง ทางหาเงิน เพิ่มรายได้จากการท�ำ e-Commerce แบบที่เริ่มต้นได้ไม่ยากอย่างที่คิด เหล่านี้จึงเป็น แรงผลักดันให้ สพธอ. ร่วมมือกับเครือข่ายส�ำคัญ อย่างส�ำนักงานสถิติแห่งชาติท�ำการส�ำรวจมูลค่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย (Value of e-Commerce in Thailand) อย่างต่อเนื่องเป็น ปีที่3นับตั้งแต่ปี2558โดยด�ำเนินการตามระเบียบ วิธีวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความถูกต้องแม่นย�ำใกล้ เคียงกับสถานภาพธุรกิจ e-Commerce ของ ประเทศไทยมากที่สุด โดยปีนี้ สพธอ. ได้จัดเก็บมูลค่า e-Commerce ปี 2559 และคาดการณ์ มูลค่าในปี 2560 จากการส�ำรวจผู้ประกอบ การ e-Commerce ทั้งประเทศ ที่รวบรวม รายชื่อและได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และ สำ�นักงานสถิติแห่งชาติ รวมจำ�นวนทั้งสิ้น 592,996 ราย ซึ่งแนวโน้มจ�ำนวนผู้ประกอบ การและมูลค่า e-Commerce เพิ่มขึ้นทุกปี เป็น ที่น่ายินดีอย่างยิ่ง นอกจากนี้ผลการส�ำรวจมูลค่า e-Commerce ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2557 จ�ำนวน 2,033,493.35 ล้านบาท, ปี 2558 จ�ำนวน 2,245,147.02 ล้านบาท และปี 2559 จำ�นวน 2,560,103.36 ล้านบาท และ อัตราการเติบโตจากปี 2557 ที่ สพธอ. ได้เคย คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 4 แต่เมื่อส�ำรวจจริงพบว่า อัตราการเติบโตของมูลค่า e-Commerce ปี 2557-2558 สูงถึงร้อยละ 10.41 และ สูงอย่าง ต่อเนื่องจนถึงปี 2558-2559 ที่ร้อย ละ 14.03
23.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 23 ๅ AliResearch – Alibaba Group on Accenture, Global Cross Border B2C e-Commerce Market 2020 บทสรุปผู้บริหาร เมื่อโลกหันหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จะเห็นได้จากโครงสร้างพื้นฐาน ต่าง ๆ ถูกพัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้กับผู้คนได้ใช้ ชีวิตประจ�ำวันได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น พฤติกรรม ของผู้คนในสังคมก็เปลี่ยนแปลงไปให้เข้ากับยุคดิจิทัล ทั้งลักษณะของการด�ำเนินกิจการ ต่าง ๆ พฤติกรรมการบริโภคและการซื้อสินค้าจากหน้าร้าน ผู้คนหันมาซื้อสินค้าและ บริการบนอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นขึ้น อีกทั้งมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมี นัยส�ำคัญ ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) มีบทบาทส�ำคัญในการส่งเสริม เศรษฐกิจระดับประเทศ รวมไปถึงธุรกิจ e-Commerce ข้ามพรมแดน (Cross-Border e-Commerce)ที่สร้างมูลค่าการขายสินค้าและบริการออนไลน์ทั่วโลกสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากข้อมูลตัวเลขภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก อเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา ยุโรปตอนกลางถึงตะวันออก เอเชียกลาง ตะวันออกกลางและแอฟริกา เฉพาะในส่วนของมูลค่า e-Commerce แบบ B2C จากปี 2557 – คาดการณ์ปี 2563 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากสูงถึง 27.3%1 ส�ำหรับประเทศไทย ได้มีการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Econony) เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหม่ของประเทศ ในการด�ำเนินงานเพื่อให้สอดคล้อง กับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และโครงการต่าง ๆ ของนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล หน่วยงาน ภาครัฐและเอกชนจ�ำเป็นจะต้องอาศัยข้อมูลสถิติเป็นส�ำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ยุคดิจิทัลที่ข้อมูลถือเป็นขุมทรัพย์และอาวุธส�ำคัญที่ใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบาย การบริหารงาน และการก�ำหนดทิศทางขององค์กรและประเทศ โดยมุ่งหวังให้การบริหาร จัดการงบประมาณและทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม สนับสนุน ผลักดัน e-Commerce ของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
24.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 24 การส�ำรวจมูลค่า e-Commerce ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลสถิติ มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทยที่มีความครอบคลุม และเป็นที่ยอมรับในระดับ สากล สามารถน�ำมาใช้อ้างอิงหรือเปรียบเทียบกับต่างประเทศในระดับโลกได้ รวมถึงเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน สามารถน�ำข้อมูลจาก ผลการส�ำรวจครั้งนี้ไปใช้ประกอบการวางนโยบาย การบริหารจัดการกลยุทธ์การวางแผน การด�ำเนินธุรกิจทั้งในระดับองค์กร รวมถึงระดับประเทศ เพื่อปรับตัวให้สอดคล้อง กับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาในธุรกิจ e-Commerce ให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับ ภูมิภาคและระดับสากลอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยการสำ�รวจครั้งนี้เป็นการสำ�รวจมูลค่า e-Commerce ปี 2560 และ คาดการณ์มูลค่า e-Commerce ปี 2561 สำ�หรับกรอบประชากรที่ใช้ในการสำ�รวจ ครั้งนี้ ประกอบด้วยประชากรที่เป็นผู้ประกอบการ e-Commerce รวมทั้งสิ้น 644,071 ราย โดยอ้างอิงรายชื่อจากสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) แ��ะสำ�นักงานสถิติแห่งชาติ เมื่อทราบกรอบประชากรแล้ว จึงใช้กระบวนการประมวลผลทางสถิติ สามารถกำ�หนดเป็นกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทน ของผู้ประกอบการที่มีผลประกอบการ e-Commerce น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อปี (ต่อไปนี้เรียกว่า “SMEs”) จำ�นวน 3,326 ราย และตัวแทนของผู้ประกอบการ ที่มีผลประกอบการ e-Commerce มากกว่า หรือเท่ากับ 50 ล้านบาทต่อปี (ต่อไปนี้เรียกว่า “Enterprises”) จำ�นวน 116 ราย (สามารถดูรายละเอียดของ ระเบียบวิธีวิจัยเพิ่มเติมได้จากภาคผนวกท้ายเล่ม) (สามารถดูรายละเอียดของระเบียบ วิธีวิจัยเพิ่มเติมได้จากภาคผนวกท้ายเล่ม)
25.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 25 ในการส�ำรวจครั้งนี้ เป็นการส�ำรวจมูลค่า e-Commerce ปี 2560 และ คาดการณ์มูลค่า e-Commerce ปี 2561 โดยแบ่งมิติในการส�ำรวจออกเป็น 3 ด้าน ดังนี้ มิติที่หนึ่ง ส�ำรวจโดยแบ่งมูลค่า e-Commerce ตามลักษณะทางธุรกิจ ได้แก่ B2B2 , B2C3 และ B2G4 โดยข้อมูล B2G5 ได้มาจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง กล่าวคือ เป็นมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ซึ่งในการส�ำรวจครั้งนี้ มูลค่าการ จัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐจะประกอบด้วยการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Market: e-Market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding: e-Bidding) เท่านั้น มิติที่สอง ส�ำรวจโดยแบ่งมูลค่า e-Commerce ตามรายได้ของผู้ประกอบการ e-Commerce ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ ผู้ประกอบการที่มีผลประกอบการ e-Commerce น้อยกว่า 50 ล้านบาทต่อปี (ต่อไปนี้เรียกว่า “SMEs”) และผู้ประกอบการ ที่มีผลประกอบการ e-Commerce มากกว่าหรือเท่ากับ 50 ล้านบาทต่อปี (ต่อไปนี้เรียกว่า “Enterprises”) 2 B2B (Business to Business) คือ การค้าระหว่างภาคเอกชน กับ ภาคเอกชน ซึ่งภาคเอกชน หมายถึง ผู้ประกอบการ e-Commerce ที่เป็นนิติบุคคล และมีเจตนาในการท�ำธุรกิจซื้อขายสินค้าและ ให้บริการระหว่างกัน ซึ่งในการส�ำรวจครั้งนี้รวมค�ำสั่งซื้อ สั่งจองสินค้า ผ่าน Electronic Data Interchange (EDI) 3 B2C (Business to Consumer) คือ การค้าระหว่างภาคเอกชน/ภาคประชาชน กับ ภาคเอกชน ซึ่งภาคเอกชน หมายถึง ผู้ประกอบการ e-Commerce ที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลก็ได้ และ มีเจตนาในการท�ำธุรกิจซื้อขายสินค้าและให้บริการระหว่างกัน 4 B2G (Business to Government) คือ การค้าระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ โดยในการส�ำรวจ ปี 2559 และคาดการณ์ปี 2560 มูลค่าที่เกิดจากการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ มาจากการจัดหาพัสดุ ด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Market: e-Market) และวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding: e-Bidding) อ้างอิงข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังเท่านั้น 5 ในการส�ำรวจปี 2557 และ 2558 มูลค่าที่เกิดจากการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ มาจาก 2 แหล่ง คือ ข้อมูล e-Auction จากส�ำนักมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และข้อมูลจากการส�ำรวจโดย สพธอ.
26.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 26 มิติที่สาม ส�ำรวจโดยแบ่งมูลค่า e-Commerce ตามการแบ่งประเภทอุตสาหกรรม ISIC Rev.4 (International Standard Industrial Classification of All Economic Activities Rev.4) แบ่งเป็น 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ดังนี้ อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรม การค้าปลีกและการค้าส่ง อุตสาหกรรมการขนส่ง อุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร อุตสาหกรรมการประกันภัย อุตสาหกรรม ศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ และอุตสาหกรรมการบริการด้านอื่น ๆ ทั้งนี้ มูลค่า e-Commerce ของอุตสาหกรรมการให้บริการที่พักใช้ข้อมูลจาก กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนมูลค่า e-Commerce ของ อุตสาหกรรมการประกันภัย ใช้ข้อมูลจากส�ำนักงานคณะกรรมการก�ำกับและส่งเสริมการ ประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ผลการสำ�รวจมูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย ปี 2560 และ คาดการณ์มูลค่า e-Commerce ปี 2561 ที่สำ�คัญ สามารถสรุปได้ ดังนี้ ในปี 2560 ประเทศไทยมีมูลค่า e-Commerce เป็นจำ�นวนทั้งสิ้น 2,762,503.22 ล้านบาท เมื่อพิจารณามูลค่า e-Commerce ปี 2560 พบว่า ส่วนใหญ่เป็นมูลค่า e-Commerce แบบ B2B จ�ำนวน 1,508,096.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 54.59 ของมูลค่า e-Commerce ปี 2560 รองลงมาคือ มูลค่า e-Commerce แบบ B2C จ�ำนวน 758,936.80 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 27.47 และมูลค่า e-Commerce แบบ B2G จ�ำนวน 495,469.69 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17.94 มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย ปี 2560
27.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 27 6 อุตสาหกรรมการบริการอื่น ๆ เช่น การจัดหางานและคนทางออนไลน์ และธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่อยู่ใน อุตสาหกรรมทั้ง 8 อุตสาหกรรมหลัก เป็นต้น โดยในส่วนของมูลค่าe-CommerceแบบB2Gได้มาจากกรมบัญชีกลางกระทรวงการคลัง กล่าวคือ เป็นมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ซึ่งในการส�ำรวจครั้งนี้ มูลค่าการจัดซื้อ จัดจ้างของภาครัฐ จะประกอบด้วยการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Market: e-Market) และด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding: e-Bidding) ในขณะที่อัตราการเติบโตของมูลค่า e-Commerce ปี 2560 เมื่อเทียบกับปี 2559 พบว่า มูลค่า e-Commerce แบบ B2B ของปี 2560 มีอัตราการเติบโต ลดลงร้อยละ 2.21 ส่วนมูลค่า e-Commerce แบบ B2C ของปี 2560 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.91 และมูลค่า e-Commerce แบบ B2G ของปี 2559 มีอัตราการเติบโต เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.49 ตามล�ำดับ หากแบ่งมูลค่า e-Commerce ปี 2560 ออกเป็นประเภทอุตสาหกรรมทั้ง 8 หมวด อุตสาหกรรม (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) พบว่า อุตสาหกรรมที่มีมูลค่า e-Commerce มากที่สุด อันดับที่ 1 ได้แก่ อุตสาหกรรมการค้าปลีกและการค้าส่งมี มูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 660,633.78 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.91 อันดับ ที่ 2 อุตสาหกรรมการให้บริการที่พักมีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 614,342.08 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 22.24 อันดับที่ 3 อุตสาหกรรมการผลิตมีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 457,804.39 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 16.57 อันดับที่ 4 อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารมีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 390,621.17 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.14 อันดับที่ 5 อุตสาหกรรมการขนส่ง มีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 108,279.99 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.83 อันดับที่ 6 อุตสาหกรรมศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการมีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 23,412.02 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.94 อันดับที่ 7 อุตสาหกรรมบริการอื่น ๆ6 มีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 8,921.07 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.32 และอันดับ ที่ 8 อุตสาหกรรมการประกันภัยมีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 3,019.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.11 ตามล�ำดับ
28.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 28 จากการคาดการณ์ พบว่า ในปี 2561 มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย จะมีมูลค่าประมาณ 3,150,232.96 ล้านบาท เมื่อพิจารณามูลค่า e-Commerce คาดการณ์ปี 2561 พบว่า ส่วนใหญ่เป็น มูลค่า e-Commerce แบบ B2B จ�ำนวน 1,712,484.33 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 54.36 ของมูลค่า e-Commerce ปีรองลงมาคือ มูลค่า e-Commerce แบบ B2C จ�ำนวน 865,456.99 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 27.47 และมูลค่า e-Commerce แบบ B2G จ�ำนวน 572,291.63 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18.17 ในขณะที่การคาดการณ์ อัตราการเติบโตของมูลค่า e-Commerce ปี 2561 เมื่อเทียบกับปี 2560 พบว่า มูลค่า การคาดการณ์ e-Commerce แบบ B2B ของปี 2561 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.55 ส่วนมูลค่าการคาดการณ์ e-Commerce แบบ B2C ของปี 2561 มีอัตรา การเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.04 แต่มูลค���าการคาดการณ์ e-Commerce แบบ B2G ของ ปี 2561 มีอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 15.50 ตามล�ำดับ หากแบ่งการคาดการณ์มูลค่าe-Commerceปี2561ออกเป็นประเภทอุตสาหกรรม ทั้ง 8 หมวด อุตสาหกรรม (ไม่รวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ) พบว่า อุตสาหกรรม ที่มีมูลค่า e-Commerce มากที่สุด อันดับที่ 1 ได้แก่ อุตสาหกรรมการค้าปลีกและ การค้าส่ง มีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 820,757.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29.71 อันดับที่ 2 อุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก มีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 633,693.86ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 22.94 อันดับที่ 3 อุตสาหกรรมการผลิต มีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 538,562.66 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 19.50 อันดับ ที่ 4 อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร มีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 416,234.18 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.14 อันดับที่ 5 อุตสาหกรรมการขนส่ง มีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 126,136.99 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 3.83 การคาดการณ์มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย ปี 2561
29.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 29 อันดับที่ 6 อุตสาหกรรมศิลปะ ความบันเทิง และนันทนาการมีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 29,186.68 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.06 อันดับที่ 7 อุตสาหกรรมบริการอื่น ๆ มีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 10,189.55 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.37 และ อันดับที่ 8 อุตสาหกรรมการประกันภัยมีมูลค่า e-Commerce จ�ำนวน 3,179.65 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.12 ตามล�ำดับ จากข้อมูลดังที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่าธุรกิจ e-Commerce โดยส่วนใหญ่ จะมีทิศทางการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างมีนัยส�ำคัญ โดยมีแรงสนับสนุนมาจาก 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ปัจจัยที่หนึ่ง มีการลงทุนจากผู้ประกอบการด้าน e-Commerce จากต่างประเทศ มากขึ้น ท�ำให้ผู้ประกอบการที่ขายออนไลน์มีช่องทางการขายเพิ่มขึ้น สร้างมูลค่าขายที่ เพิ่มขึ้นตาม เช่น Alibaba Group ที่เข้ามาตีตลาด e-Commerce ของไทยผ่าน Lazada อีกทั้ง JD (Jingdong) ที่เข้ามาร่วมทุนกับกลุ่ม Central และ Shopee จาก กลุ่ม Garena ที่เป็นหนึ่งในผู้น�ำด้าน e-Marketplace platform ของไทยในปีที่ผ่านมา โดยยักษ์ใหญ่ ด้าน e-Commerce เหล่านี้ได้ท�ำการแข่งขันกันอย่างต่อเนื่องผ่านการจัด promotion ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น การจัดแคมเปญ 8.8, 9.9, 11.11, 12.12 เป็นต้น การแข่งขันเหล่า นี้ส่งผลโดยตรงต่อการรับรู้และตระหนัก (Awareness) ของผู้บริโภคต่อ e-Commerce ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจ และจับจ่ายใช้สอยผ่าน e-Commerce มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
30.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 30 ปัจจัยที่สอง ผู้ประกอบการ e-Commerce ในประเทศไทยมีการขยายตัวอย่าง ต่อเนื่อง โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีจ�ำนวนผู้ประกอบการ e-Commerce ทั้งหมด 644,071 ราย เพิ่มจากปี 2559 ที่มีผู้ประกอบการทั้งหมด 592,996 ราย โดยเพิ่มขึ้นกว่า 10% ของกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหมด แสดงถึงศักยภาพในการเติบโต ของ e-Commerce ไทย ปัจจัยที่สาม ประเทศไทยมีการพัฒนาด้าน e-Commerce infrastructure อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้าน e-Logistics ที่มีผู้ประกอบการเข้ามาในตลาดมากขึ้น ทั้งการพัฒนาของไปรษณีย์ไทย Kerry Express Shippop Sokochan เป็นต้น ส่งผลให้ ผู้บริโภค หรือพ่อค้าแม่ค้า e-Commerce มีทางเลือกมากขึ้น ด้าน e-Payment ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ก่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย ส่งผลให้การจับจ่ายผ่าน e-Payment อีกทั้งด้าน e-marketing การโฆษณาและ ประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อออนไลน์และโลกโซเชียลใหญ่ขึ้น มี Digital agencies มากมาย มีช่องทางอย่าง LINE Facebook และ Google ในการโฆษณาเข้าถึงกลุ่มลูกค้า แบบเฉพาะเจาะจง (Segmentation) ได้มากยิ่งขึ้น ท�ำให้การขายออนไลน์ เป็นเรื่องง่าย ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป และเป็นที่นิยมในทุก ๆ วัย โดยเฉพาะวัยรุ่น และวัยท�ำงาน ปัจจัยที่สี่ การส่งเสริมe-Commerceผ่านโครงการต่าง ๆของภาครัฐเช่นโครงการ เน็ตประชารัฐ ท�ำให้ชุมชนที่อยู่ห่างไกลสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น ก่อให้เกิด ความสะดวกในการติดต่อสื่อสารมากขึ้นอีกทั้ง การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถือเป็นปัจจัยส�ำคัญ ต่อการซื้อสินค้าออนไลน์ของชุมชนดังกล่าว นอกจากนี้ พร้อมเพย์ ยังถือเป็นอีกหนึ่ง โครงการของภาครัฐที่ช่วยลดค่าธรรมเนียมในการโอนเงินระหว่างธนาคาร ส่งผลให้ มีการจับจ่ายผ่าน Online Payment มากขึ้น เป็นต้น 7 กลุ่มประชากร อ้างถึงระเบียบวิธีวิจัยปี 2561, ETDA
31.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 31 ปัจจัยด้านบวกทั้งภายในและภายนอกองค์กรที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ จากภาพข้างต้นจะเห็นว่าหากแบ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในประเทศตามความเห็นของผู้ประกอบการออกเป็น ปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก องค์กรแล้ว สามารถสรุปได้ดังนี้ ปัจจัยภายใน การตระหนักรู้ของผู้ประกอบการที่เห็นโอกาสของการสร้างธุรกิจ e-Commerce เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดท�ำให้ 1) มีแพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค 2) ผู้ประกอบการแต่ละแพลตฟอร์มต่างมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถเข้าถึง กลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น 3) การพัฒนาการให้บริการที่มีความหลากหลายและน่าเชื่อถือ 4) มีการเพิ่มประเภทหรือกลุ่มสินค้าและบริการ
32.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 32 5) ผู้ประกอบการน�ำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการพัฒนาธุรกิจ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นต้น 6) การมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านการ e-Commerce ซึ่งถือเป็นปัจจัยส�ำคัญ ที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อเป็นก�ำลังส�ำคัญในการพัฒนาธุรกิจ e-Commerce ของประเทศ ปัจจัยภายนอก ได้แก่ 1) นโยบายและการสนับสนุนต่าง ๆ จากรัฐบาล เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโต ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ภายในซึ่งเป็นความพยายามในการช่วยสนับสนุนและส่งเสริม เศรษฐกิจ เช่น นโยบาย PromptPay เป็นต้น 2) ฤดูกาลที่ส่งผลต่อการบริโภคสินค้าของผู้บริโภค กล่าวคือ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความ ต้องการการบริโภคสินค้าของผู้บริโภคอีกอย่างหนึ่งซึ่งขึ้นอยู่กับฤดูกาลและ สภาพอากาศ เช่น ในฤดูร้อนความต้องการซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ ความเย็นจะมีความต้องการในตลาดสูง หรือฤดูฝน ความต้องการการซื้อร่มกันฝน หรือเสื้อกันฝนก็เพิ่มขึ้นด้วย เป็นต้น 3) พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนผ่านไปสู่การเป็น Online Users มากขึ้น กล่าวคือ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การพัฒนาของเทคโนโลยี การติดต่อสื่อสารมีความรวดเร็ว มากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาท�ำกิจกรรมต่าง ๆ ในลักษณะออนไลน์มากขึ้น เช่น การพูดคุยทางแชท การซื้อสินค้า เป็นต้น นอกจากปัจจัยทั้ง 4 ประการที่กล่าวมาข้างต้นแล้วนั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งเสริม การเจริญเติบโตของในประเทศไทย อันประกอบไปด้วยทั้งปัจจัยภายในองค์กรและ ภายนอกองค์กรของผู้ประกอบการ กล่าวคือ การตระหนักรู้ของผู้ประกอบการที่เห็น โอกาสของการสร้างธุรกิจ e-Commerce เพื่อแข่งขันแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด
33.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 33 ท�ำให้มีแพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคโดยผู้ประกอบการ แต่ละแพลตฟอร์มต่างมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น รวมถึงการพัฒนาการให้บริการที่มีความหลากหลายและน่าเชื่อถือ อีกทั้งยังมีการเพิ่ม ประเภทหรือกลุ่มสินค้าและบริการ โดยน�ำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการพัฒนา ธุรกิจ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artficial Intelligent) และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เป็นต้นและอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการเติบโตของธุรกิจe-Commerceคือการมีบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญด้าน e-Commerce ซึ่งถือเป็นปัจจัยส�ำคัญที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้อง ร่วมมือกันส่งเสริมให้มีการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อเป็นก�ำลังส�ำคัญ ในการพัฒนาธุรกิจ e-Commerce ของประเทศ ส�ำหรับแนวโน้มและ Trends ต่าง ๆ ของธุรกิจ e-Commerce อ้างอิงจากการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) จากผู้ประกอบการ Enterprises สามารถสรุปได้ ดังนี้ ช่องทางการช�ำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก พบว่า การซื้อสินค้า และบริการผ่านช่องทาง e-Commerce ผู้บริโภคนิยมช�ำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตร เดบิตมากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 42.69 รองลงมาคือ แอปพลิเคชันของธนาคารหรือออนไลน์ แบงก์กิ้งร้อยละ 27.23 QR Payment/ Perchase Order/ Chaque ร้อยละ 10.75 การช�ำระเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารร้อยละ 10.46 การเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery) ร้อยละ 7.00 และอื่น ๆ อีกร้อยละ 1.87 จะเห็นได้ว่าการช�ำระเงิน ผ่านทางบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ยังคงเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดอยู่ อันเนื่องมาจากสถาบันการเงินต่าง ๆ เร่งส่งเสริมและออกแคมเปญส่งเสริมการขายและ เชิญชวนให้คนใช้บัตรมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงผู้คนไว้วางใจต่อการช�ำระเงินประเภทนี้ มากขึ้น เนื่องจากความปลอดภัยของการช�ำระเงิน รวมถึงความสะดวกในการใช้จ่าย
34.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 34 ช่องทางการตลาดออนไลน์ ที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ สินค้าและบริการที่มี Return of Investment (ROI) และสร้างยอดขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Facebook (ร้อยละ 30.61) Google Ads/YouTube Ads (ร้อยละ 29.93) LINE (ร้อยละ 14.29) Ads Network/ Banner (ร้อยละ 13.61) และ Vertical Search เช่น Price Comparison (ร้อยละ 7.48) นอกนั้นเป็นช่องทางอื่น ๆ รวมกัน (ร้อยละ 4.08) จะเห็นได้ว่า Facebook8 ยังถือครองอันดับหนึ่งในช่องทาง การตลาดที่ผู้ประกอบการเลือกใช้ อันเนื่องมาจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้ใช้ Facebook มากที่สุด อันดับ 8 ของโลก อยู่ที่ 52 ล้านราย ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นในทิศทางเดียว กับจ�ำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2560 อยู่ที่ 45.2 ล้านคน9 การน�ำข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big data เข้ามาช่วยในการด�ำเนินธุรกิจของ ผู้ประกอบการก็มีความส�ำคัญและส่งผลต่อการเติบโตของ e-Commerce พบว่า จากจ�ำนวนผู้ประกอบการ Enterprisesที่มีการพัฒนาและใช้ Big Data/ Data Analytics นั้น มีการใช้งบพัฒนาน้อยกว่า 1 ล้านบาท อยู่ที่ร้อยละ 46.15 ใช้งบ 1-5 ล้านบาท ที่ร้อยละ 23.07 และ 10-50 ล้านบาท ที่ร้อยละ 30.76 โดยพบว่า ผู้ประกอบการทั้งหมดร้อยละ 100 ใช้ Bigdata/Data Analytics เพื่อช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคอันจะน�ำไปสู่กลยุทธ์การน�ำเสนอสินค้าใหม่ ๆ ที่หลากหลาย และตรงใจลูกค้า ส่วนร้อยละ 92.85 ใช้เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค 8 Statista, Leading countries based on number of Facebook users as of October 2018, (online) https://www.statista.com/statistics/268136/top-15-countries-based-on-num- ber-of-facebook-users/ 9 จ�ำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ต (รายปี) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่รวมอินเทอร์เน็ตตามโครงการเน็ตประชารัฐซึ่ง ครอบคลุมประชากรประมาณ 20 ล้านคน, ฐานข้อมูลของตลาดอินเทอร์เน็ต, ศูนย์ข้อมูลและวิจัย เศรษฐกิจโทรคมนาคม ในส�ำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ, ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561, http://ttid.nbtc.go.th/ internet_db.html
35.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 35 เพื่อวางแนวทางการตลาดในอนาคต และร้อยละ 85.71 ใช้เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยแวดล้อม ภายนอก เช่น สภาพอากาศ เพื่อก�ำหนดยุทธศาสตร์ในการจ�ำหน่ายสินค้าและบริการ ส�ำหรับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) นั้นก็มีการส�ำรวจจากผู้ประกอบการ Enterprises เช่นเดียวกัน พบว่า ร้อยละ 76.93 ของผู้ประกอบการมีการพัฒนา ปัญญาประดิษฐ์เพื่อช่วยในการบริหาร และจัดการการบริการลูกค้า ที่เหลือร้อยละ 23.07 ยังไม่มีการพัฒนาดังกล่าว ซึ่งจากผู้ประกอบการที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ พบว่า ร้อยละ 38.46 ใช้งบในการพัฒนาน้อยกว่า 1 ล้านบาท อีกร้อยละ 23.07 ใช้งบในการพัฒนา 1-5 ล้านบาท และใช้งบในการพัฒนา 5-10 ล้านบาท และ 10-50 ล้านบาท ในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ ร้อยละ 7.69 โดยการใช้ประโยชน์ต่าง ๆ จากปัญญาประดิษฐ์นั้น ผู้ประกอบการ น�ำไปใช้อย่างหลากหลาย เช่น ช่วยในการให้บริการลูกค้า เช่น ChatBot, CRM เป็นต้น มากเป็นอันดับที่ 1 คิดเป็นร้อยละ 69.23 รองลงมา ใช้เพื่อช่วยท�ำงานด้านวิเคราะห์ การเคลมประกัน การแจ้งเตือนต่าง ๆ รวมถึง Daily operation (ร้อยละ 23.07) ถัดมา คือ ช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคร่วมกับ Big Data (ร้อยละ 15.38) และช่วย ในการตัดสินใจในเชิงบริหาร เช่น การขยายสาขา การเพิ่มหรือลดจ�ำนวนพนักงาน (ร้อยละ 15.38) รวมทั้งช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือออกแบบผลิตภัณฑ์ เป็นต้น (ร้อยละ 7.69) ปัจจัยทั้งหมด ดังกล่าวข้างต้น เป็นปัจจัยส�ำคัญที่ส่งผลให้ธุรกิจด้าน e-Commerce เติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต ผนวกกับการส่งเสริมจากนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ดิจิทัลนโยบายไทยแลนด์4.0และการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs) ธุรกิจ e-Commerce จึงเป็นช่องทางในการลดความเหลื่อมล�้ำ สร้างรายได้จาก ช่องทางการจ�ำหน่ายใหม่ รวมถึงผู้ประกอบการท้องถิ่นที่จะน�ำสินค้าในท้องถิ่นสู่ตลาดโลก ถือเป็นปัจจัยส�ำคัญที่สามารถยกระดับผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปให้สามารถใช้ e-Commerce สร้างรายได้หรือต่อยอดการท�ำธุรกิจด้าน e-Commerce ได้อย่างยั่งยืน ต่อไปในอนาคต
36.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 36 ผลการสำ�รวจที่สำ�คัญ
37.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 37 1. มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย ภาพที่ 1 มูลค่า e-Commerce ในประเทศไทย ปี 2558-2560 และคาดการณ์ปี 2561 จากภาพที่ 1 ในปี 2560 ประเทศไทยมีมูลค่า e-Commerce ที่ นับรวมมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ10 จำ�นวนทั้งสิ้น 2,762,503.22 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2559 สูงถึงร้อยละ 7.91 ในขณะที่ปี 2561 สามารถคาดการณ์มูลค่า e-Commerce ที่นับรวมมูลค่า การจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ได้เป็นจ�ำนวนทั้งสิ้น 3,150,232.96 ล้านบาท ซึ่งจะมี อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 14.04 10 ในการส�ำรวจปี 2560 มูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ในที่นี้มาจากการจัดหาพัสดุด้วยวิธีตลาด อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Market: e-Market) และวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding: e-Bidding) อ้างอิงข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังเท่านั้น
38.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 38 ภาพที่ 2 มูลค่า e-Commerce แบบ B2C ของประเทศต่างๆ ปี 2559-2560
39.
สำ�นักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) Electronic Transactions
Development Agency (Public Organization) 39 จากการเปรียบเทียบมูลค่า e-Commerce เฉพาะในส่วนของมูลค่าที่เป็น B2C กับประเทศต่างๆได้แก่จีนสหรัฐอเมริกาญี่ปุ่นเกาหลีใต้และกลุ่มประเทศอาเซียนดังแสดง ในภาพที่211 พบว่ามูลค่าe-CommerceแบบB2Cในปี2560เพิ่มขึ้นทุกประเทศยกเว้น ประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร ในอันดับต้น ๆ ของโลก เช่น จีน สหรัฐอเมริกา และเกาหลีใต้ 11 อ้างอิงแหล่งข้อมูลจาก จีน อ้างอิงจาก United Nation Industrial Development Organization (UNIDO), www.unido.org สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. สหรัฐอเมริกา อ้างอิงจาก United State Census Bureau, www2.census.gov, สืบค้นเมื่อ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. ญี่ปุ่น อ้างอิงจาก Ministry of Economy Trade and Industry of Japan, www.meti.go.jp, สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. เกาหลีใต้ อ้างอิงจาก Korea Statistical Information Service, www.kosis.kr, สืบค้นเมื่อ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. ไทย อ้างอิงจาก รายงานผลการส�ำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 โดย สพธอ. มาเลเซีย อ้างอิงจาก Ministry of International Trade and Industry of Malaysia, www.miti.gov.my, สืบค้นเมื่อวันที่ สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. เวียดนาม อ้างอิงจาก Vietnam E-Commerce and Technology Agency, www.vecita. gov.vn, สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. อินโดนีเซีย อ้างอิงจาก Emarketer, www.emarketer.com, สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. (ไม่สามารถค้นหาแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการของรัฐบาล) สิงคโปร์ อ้างอิงจาก International Enterprise Singapore, www.iesingapore.gov.sg, สืบค้นเมื่อ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. ฟิลิปปินส์ อ้างอิงจาก Euromonitor International, www.euromonitor.com, สืบค้นเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2561. (ไม่สามารถค้นหาแหล่งข้อมูลอย่างเป็นทางการของรัฐบาล)
40.
รายงานผลการสำ�รวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2561 Value
of e-Commerce Survey in Thailand 2018 40 12 ค�ำนวณโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 25 ธันวาคม ปี 2560 ที่ 32.58 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ข้อมูล จากธนาคารแห่งประเทศไทยปี 2561, สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2561 โดยในปี 2560 จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีมูลค่า e-Commerce แบบ B2C ทั้งสิ้น 917.16, 452.08, 146.47 และ 69.20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามล�ำดับ (คิดเป็น 29.88 ล้านล้านบาท 14.73 ล้านล้านบาท 4.77 ล้านล้านบาท และ2.25ล้านล้านบาทตามล�ำดับ)สาเหตุที่ส่งผลให้มูลค่าe-Commerceของประเทศ ญี่ปุ่นลดลงนั้นเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนในรอบปี2559และ 2560 โดยหากดูจากตัวเลขมูลค่า e-Commerce แบบ B2C ของประเทศญี่ปุ่นเป็น เงินสกุลท้องถิ่น เห็นว่า มีมูลค่าทั้งหมด 151,358 ร้อยล้านเยนในปี 2559 และเพิ่มขึ้น เป็น 165,054 ร้อยล้านเยนในปี 2560 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.05) ในขณะที่มูลค่า e-Commerce แบบ B2C ของประเทศในภูมิภาคอาเซียน เรียงตามล�ำดับ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม สิงค์โปร์ และฟิลิปปินส์ มีมูลค่าทั้งสิ้น 23.30, 19.40, 8.21, 6.71, 4.61 และ 1.84 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามล�ำดับ คิดเป็นมูลค่า 7.59, 6.32, 2.67, 2.18, 1.50 และ 0.60 แสนล้านบาท12 ตามล�ำดับ หากเปรียบเทียบเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน จะเห็นได้ว่าประเทศที่มีอัตรา การเติบโตของมูลค่า e-Commerce แบบ B2C สูงที่สุด คือ ฟิลิปปินส์ โดยมีอัตรา การเติบโตของมูลค่า e-Commerce แบบ B2C ที่เพิ่มขึ้นจากปี 2559 คิดเป็นร้อยละ 260.78 รองลงมา ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย ด้วยอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น จากปี 2559 คิดเป็นร้อยละ 55.20, 20.47 และ 18.64 ตามล�ำดับ
Download now